tag:blogger.com,1999:blog-83613353847022084892024-03-21T11:06:17.898-07:00ศูนย์ฝึกอาชืพออนไลน์-อาจารย์ชัชศูนย์ฝึกอาชืพออนไลน์-อาจารย์ชัชAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/07793199612429798125noreply@blogger.comBlogger2125tag:blogger.com,1999:blog-8361335384702208489.post-19681299111537539582010-06-10T03:28:00.000-07:002010-06-10T03:46:21.710-07:00แผนการตลาดแบบง่ายฯ<div> ถึงลูกศิษย์ ที่รักวันนี้อาจารย์ชัช จะบอกเคล็ดลับในการประกอบธุรกิจให้ประสพความสำเร็จ มีหลัก 2 ประการดังนี้ 1. คุณภาพของสินค้าต้องดี 2. ต้องมีแผนธุรกิจที่ดี แผนธุรกิจเหมือนเรือที่เดินโดยมีหางเสือ มีทิศทางแน่นอน มีเป้าหมายชัดเจน แผนธุรกิจที่จะสอนให้เรารู้ และ วิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส ข้อด้อย ของเรา เปรียบสเหมือนคำสุภาษิต จีนที่ว่า รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง<br /> แผนธุรกิจฉบับชาวบ้าน ด้วยภาษาง่ายฯ ขอให้อ่านให้เข้าใจ ก่อนทำธุรกิจเพราะจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราแตกต่างกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่ไม่มีแผน ครับ <br /> แผนธุรกิจฉบับง่ายฯ<br />1. คำนำ<br />ในการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก หรือใหญ่ ถ้ามีการเริ่มต้นที่ดีแล้ว ก็เท่ากับว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม การทำแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ชี้ให้เห็นถึงเป้าหมาย ความพร้อมในการเริ่มต้นธุรกิจ ความมั่นใจ และทิศทางการดำเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ตั้งไว้ คู่มือการจัดทำแผนธุรกิจฉบับชาวบ้าน มุ่งเน้นให้ผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจขนาดเล็ก หรืออุตสาหกรรมในครอบครัว ได้มีโอกาสศึกษาทำความเข้าใจขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำธุรกิจ และเป็นแนวทางในการจัดทำแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ<br /><br />2. แผนธุรกิจคืออะไร?<br />แผนธุรกิจ คือ เครื่องมือซึ่งนักลงทุนหรือผู้ประกอบการสามารถใช้เพื่อกำหนดขั้นตอน และทิศทางการดำเนินธุรกิจ อย่างมีแบบแผน และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบรรลุจุดหมายที่ตั้งไว้ จุดหมายนี้อาจเป็นผลกำไร หรือความพึงพอใจอื่นๆ นอกจากนี้ แผนธุรกิจยังถูกใช้เสนอแก่หุ้นส่วน หรือสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาร่วมทุน หรือการพิจารณาเงินกู้<br /><br />3. ลักษณะของแผนธุรกิจที่ดี<br />แผนธุรกิจที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้<br />· กระชับ<br />· ครอบคลุมเนื้อหาที่สำกัญ<br />· ง่ายต่อการเข้าใจ<br />· ปฏิบัติตามได้จริง<br /><br />4. ส่วนประกอบของแผนธุรกิจ ?<br />โดยปกติแล้ว แผนธุรกิจจะประกอบด้วย 5 ส่วนที่สำคัญดังนี้<br />1. แผนการตลาด<br />2. แผนการผลิต<br />3. แผนการเงิน<br />4. แผนการจัดองค์กร<br />5. แผนสำรองฉุกเฉิน<br />ก่อนจะเริ่มต้นเขียนแผนธุรกิจลองตั้งคำถามง่ายๆ ในใจดังต่อไปนี้<br />ð เป้าหมายการทำธุรกิจ คืออะไร ?<br />ð เรามีความถนัดอะไร ? <br />ð เราอยู่ในธุรกิจอะไร ?<br />ð เราจะขายสินค้า หรือให้บริการอะไร ?<br />ð ตลาด (ผู้ซื้อ หรือ ลูกค้า) หรือแหล่งที่ขาย ของเราอยู่ที่ไหน ?<br />ð ใครเป็นผู้ซื้อ หรือเป็นลูกค้าของเรา ?<br />ð ใครเป็นคู่แข่งของเรา ?<br />ð แผนการขายของเราเป็นอะไร ?<br />ð เราต้องการเงินลงทุนจำนวนเท่าไร ?<br />ð เราจะผลิตอย่างไร ?<br />ð เราจะจัดองค์กรเพื่อบริหารธุรกิจอย่างไร ?<br />ð เราจะต้องทบทวนแผนธุรกิจเมื่อไร ?<br />ð หากประสบปัญหา จะแก้ไขอย่างไร หรือจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน ?<br />คำถามข้างต้น เป็นจุดเริ่มให้คุณได้คิดว่า การเริ่มต้นธุรกิจอะไรสักอย่าง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษา หาข้อมูล และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนลงมือปฏิบัติจริง ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยง และเป็นการเพิ่มความมั่นใจแก่ตนเอง<br /><br />5. ขั้นตอนการเขียนแผนธุรกิจ<br />กำหนดประเภทธุรกิจ และเป้าหมาย<br />จัดทำแผนการตลาด<br />จัดทำแผนการผลิต<br />จัดทำแผนองค์กร<br />จัดทำแผนการเงิน<br />จัดทำแผนสำรองฉุกเฉิน<br /><br />6. กำหนดประเภทธุรกิจธุรกิจ<br />6.1<br />1. เป้าหมาย<br /><br />1.1 เราจะทำธุรกิจประเภทอะไร ?<br />ในการจัดทำแผนธุรกิจ คำถามที่ต้องพิจารณาอันดับแรกคือ เราจะทำธุรกิจประเภทอะไร ? ช่องว่างข้างล่างนี้ ขอให้ลองเขียนว่าคุณอยากจะทำธุรกิจอะไร ?<br />……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br />หลังจากนั้นลองถามตัวเองว่าใครคือลูกค้าของเรา ลูกค้าเราต้องการอะไร และอะไรที่ลูกค้าต้องการ แต่สินค้าหรือบริการของเราไม่มีให้ ?<br />ใครจะเป็นลูกค้าของเรา ?<br /><br />ลูกค้าต้องการอะไร ?<br /><br />สินค้าของเราขาดอะไร ที่ลูกค้าต้องการ ?<br /><br /><br />6.2 กำหนดเป้าหมาย<br /> ในการดำเนินธุรกิจ ควรมีการกำหนดเป้าหมาย หรือจุดหมายที่เราอยากไปให้ถึง เพราะเราจะได้ทราบว่าสิ่งที่เราทำอยู่ได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ โดยการเปรียบเทียบผลประกอบการ กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากผลประกอบการ (เช่น กำไร หรือ ยอดขาย) มีปริมาณน้อยกว่าเป้าหมาย เราก็ควรทำการปรับปรุงกิจการให้ดีขึ้น การตั้งเป้าหมายควรกำหนดเป็นจำนวนตัวเลขที่สามารถวัดค่าได้ ตัวอย่างเช่น “เป้าหมายของการดำเนินธุรกิจผลิตกล้วยตากขาย จะต้องได้กำไรไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ต่อเดือน หรือ 120,000 บาท ต่อปี”<br />ลองกำหนดเป้าหมายของคุณลงในช่องว่าง<br />……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br />6.3 การประเมินความสามารถในเชิงธุรกิจ<br />ขั้นต่อไปคือ การตรวจสอบธุรกิจของคุณ ว่ามีข้อได้เปรียบ และข้อจำกัดอะไร เพื่อประโยชน์ในการจัดทำแผนธุรกิจต่อไป<br />ข้อได้เปรียบ – ลองพิจารณาดูว่าธุรกิจของคุณมีจุดเด่น (เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง) ในด้านใด ตัวอย่างเช่น สินค้าหรือบริการของคุณมีอะไรพิเศษ สามารถดึงดูดใจลูกค้า ความสามารถและความชำนาญของลูกจ้าง เทคนิคในขบวนการผลิต ที่ตั้งของโรงงานอยู่ในจุดได้เปรียบอย่างไร เป็นต้น<br />ข้อจำกัด – ลองค้นหาว่าธุรกิจของคุณ มีข้อจำกัด หรือข้อเสียใดบ้าง เช่น ข้อจำกัดด้านการเงิน ตำแหน่งที่ตั้ง คุณภาพสินค้า ด้านการบริการ การส่งมอบไม่ตรงเวลา ไม่มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น<br />……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br />7. แผนการตลาด<br /> เมื่อได้ตัดสินใจว่าจะอยู่ในธุรกิจใดแล้ว คุณก็ควรเริ่มวิเคราะห์เกี่ยวกับการตลาดเสียที แผนการตลาดจะช่วยให้เรารู้ว่าจะขายสินค้าให้ใคร และจะขายได้มากน้อยเท่าใด ความสำเร็จทางการตลาดเริ่มจากตัวคุณที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การตลาด ลูกค้า และคู่แข่งต่างๆ ก่อนที่จะทำการวางแผนการผลิต คุณต้องสามารถชี้บ่งการตลาดของคุณ ได้ เช่น ใครเป็นลูกค้าของคุณ ทำไมลูกค้าจึงซื้อสินค้าของคุณ ตลาดของสินค้ามีการเติบโตหรือไม่ ตลาดขึ้นกับฤดูกาลหรือไม่ คุณต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดเท่าไร ? แหล่งที่สามารถให้ข้อมูลทางการตลาดประกอบด้วยหน่วยงานราชการ และหน่วยงานอิสระ เช่น กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กรมศุลกากร สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานวิจัยด้านการตลาดและการลงทุน สมาคมต่างๆ รวมถึงเอกสารในห้องสมุดของสถาบันการศึกษา เป็นต้น ข้อมูลการสำรวจประชากรสามารถแสดงตัวเลข อายุ อุปนิสัย กำลังการซื้อ ในแต่ละพื้นที่ได้ นอกจากนี้ตัวเลขการ นำเข้า-ส่งออกโดยกรมศุลกากร และกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ทำให้เราทราบถึงแนวโน้มของตลาดสินค้าต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม สำหรับหน่วยงานในระดับจังหวัดเช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานจังหวัดเกษตรจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ก็เป็นแหล่งข้อมูลทางการตลาดที่สำคัญเช่นกัน<br /><br />7.1 ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์<br />· ชื่อผลิตภัณฑ์ …………………………………………………………………………………………….<br />· ลักษณะผลิตภัณฑ์ ………………………………………………………………………………………<br />· ลักษณะบรรจุภัณฑ์………………………………………………………………………………………<br />· การนำไปใช้ประโยชน์ ……………………………………………………………………………………<br />7.2 แนวโน้มทางการตลาด<br />แนวโน้มทางการตลาด หมายถึง ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นๆ ในปัจจุบัน และในอนาคต โดยพิจารณายอดขายในช่วยระยะ 5 ปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ยอดขายที่จะเกิดขึ้นในอีก 4-5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้คุณ ควรบันทึกแหล่งที่มาของข้อมูลนั้นๆ ด้วย<br /><br />ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการ<br />แหล่งข้อมูล<br />ยอดขาย 5 ปีที่แล้ว*<br />ยอดขายปัจจุบัน*<br />ยอดขายในอีก<br /> 5 ปี ข้างหน้า<br />1.<br /><br />หน่วย<br />หน่วย<br />หน่วย<br />บาท<br />บาท<br />บาท<br />2.<br /><br />หน่วย<br />หน่วย<br />หน่วย<br />บาท<br />บาท<br />บาท<br />หมายเหตุ : * หากเป็นสินค้าชนิดใหม่ หรือไม่มีตัวเลขการขายในอดีต ก็ไม่ต้องบันทึก<br /><br />7.3 ส่วนแบ่งตลาด<br />ให้บันทึกว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณจะขายในประเทศ หรือส่งออก เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์<br />ผลิตภัณฑ์ / บริการ<br />ตลาดในประเทศ %<br />ตลาดต่างประเทศ %<br />1.<br /><br /><br />2.<br /><br /><br /><br />7.4 ประมาณการยอดขาย<br /><br />ยอดขายทั้งหมด<br />ผลิตภัณฑ์ # 1<br />ผลิตภัณฑ์ # 2<br />ปีนี้<br /><br />บาท<br />บาท<br />บาท<br />หน่วย<br />หน่วย<br />หน่วย<br />ปีหน้า<br /><br />บาท<br />บาท<br />บาท<br />หน่วย<br />หน่วย<br />หน่วย<br /><br />7.5 ช่องทางการจำหน่าย<br />ช่องทางการจำหน่าย หมายถึง วิธีการ และสถานที่ที่สินค้าถูกวางจำหน่าย เช่น คุณขายสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง หรือผ่านตัวแทนจำหน่าย และค่าใช้จ่ายจากการใช้ช่องทางจำหน่ายเหล่านี้เป็นเท่าไร ?<br />……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br />ระบุชื่อลูกค้าสำคัญของคุณ จำนวนเงินที่ลูกค้าซื้อจากคุณ ในแต่ละผลิตภัณฑ์<br /><br />7.6 คู่แข่งทางการตลาด<br />การศึกษาคู่แข่ง ทำให้เราทราบว่า สินค้าที่เรากำลังผลิตจำหน่าย มีผู้ผลิตขายอยู่แล้วในขณะนี้หรือยัง และมีปริมาณมากน้อยเท่าใด ทั้งนี้เพื่อมาวิเคราะห์ว่า เราจะผลิตในรูปแบบอื่นใดได้บ้าง<br />7.7 จุดที่เหนือคู่แข่ง<br />ธุรกิจของคุณสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้อย่างไร ? ลองพิจารณาหัวข้อข้างล่างนี้ และทำเครื่องหมาย 3ลงในช่องที่คุณ คิดว่าได้เปรียบคู่แข่ง พร้อมกับระบุเหตุผลความได้เปรียบนั้นๆ<br /><br /> ข้อได้เปรียบ ผลิตภัณฑ์ # 1 ผลิตภัณฑ์ # 2 ผลิตภัณฑ์ # 3<br />1. ราคา o o o<br />2. สมรรถนะ o o o<br />3. ความทนทาน o o o<br />4. ประโยชน์ใช้สอย o o o<br />5. ความเที่ยงตรง o o o<br />6. ง่ายต่อการใช้งาน o o o<br />7. ง่ายต่อการดูแลรักษา o o o<br />8. ง่ายต่อการติดตั้ง o o o<br />1. ขนาด และนำหนัก o o o<br />2. รูปลักษณ์ o o o<br />3. ข้อได้เปรียบอื่นๆ o o o<br />สิ่งที่คุณคิดว่าผลิตภัณฑ์ของคุณไม่เหมือนใคร………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………<br /><br />7.8 การประเมินคู่แข่ง<br />ลองค้นหาจุดแข็ง และจุดอ่อนของคู่แข่ง และเขียนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับกลยุทธ์ต่างๆ ที่ คู่แข่งของคุณ ใช้ เช่น กลยุทธ์การตลาด ความสามารถในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นต้น<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />หากคู่แข่งของคุณ ได้ถอนตัวจากตลาด หรือปิดกิจการไป หาเหตุผลที่ทำให้เขาเหล่านั้นถอนตัว<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br /><br />7.9 นวัตกรรม<br /> นวัตกรรม หรือการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อะไรที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ลองเขียนมาตรการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือกระบวนการ และประมาณการค่าใช้จ่าย และระยะเวลาการคิดค้น<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />หมายเหตุ : แหล่งข้อมูลเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้แก่ สถาบันการศึกษา สำนักงานวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สมาคมสิ่งประดิษฐ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสถาบันค้นคว้าวิจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกจำนวนมาก<br /><br />7.10 การส่งเสริมการตลาด<br /> การส่งเสริมการตลาด คือวิธีการที่ใช้ในการทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การให้ส่วนลดพิเศษ เป็นต้น แล้วระบุค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />7.11 การบริการลูกค้า<br />ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่จะพิจารณาการให้บริการหลังการซื้อสินค้าจากบริษัท การให้บริการมีหลายรูปแบบเช่น บริการติดตั้งหลังการขาย บริการบำรุงรักษา บริการที่ปรึกษา การประกันความเสียหาย เป็นต้น ลองพิจารณาว่าคุณสามารถปรับปรุงการให้บริการของธุรกิจคุณ อย่างไร<br />………………………………………………………………………………………………………………..<br />………………………………………………………………………………………………………………..<br /><br />8. แผนการผลิต<br />ในการจัดทำแผนธุรกิจ คุณต้องคำนึงถึงกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการแปลงวัตถุดิบเป็นสินค้าสำเร็จรูป โดยมีปัจจัยการผลิตต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ วัตถุดิบ บุคลากร เครื่องจักร เป็นต้น รวมถึงการคำนวณหาต้นทุนการผลิต ดังนี้<br />8.1 กระบวนการผลิต<br />พิจารณาขั้นตอน กระบวนการผลิตสินค้า อธิบายขั้นตอนตั้งแต่วัตถุดิบ ถึงสินค้าสำเร็จรูป<br />……………………………………………………………………………………………………………….<br />……………………………………………………………………………………………………………….<br />……………………………………………………………………………………………………………….<br />8.2 วัตถุดิบ<br />วัตถุดิบที่ใช้<br />แหล่งวัตถุดิบ<br />ราคาต่อหน่วย<br />ข้อคิดเห็น (ตำแหน่ง ,การส่งมอบ, การขาดแคลน เป็นต้น)<br />1.<br /><br /><br /><br />2.<br /><br /><br /><br />3.<br /><br /><br /><br />4.<br /><br /><br /><br /><br />8.3 ปริมาณวัตถุดิบคงคลัง<br />พิจารณาวัตถุดิบ หรือชิ้นส่วนแต่ละอย่างถึงจำนวนที่จำเป็นต้องหาซื้อมาเก็บในคลังสินค้า<br />วัตถุดิบที่ใช้<br />จำนวนที่เก็บในคลัง<br />ปริมาณคงเหลือต่ำสุด<br />ที่ต้องเริ่มสั่งซื้อ<br />ค่าใช้จ่ายในการเก็บ<br />1.<br /><br /><br /><br />2.<br /><br /><br /><br />3.<br /><br /><br /><br />4.<br /><br /><br /><br />8.4 เครื่องจักร และอุปกรณ์หลักในโรงงาน<br /><br />เครื่องจักร / อุปกรณ์<br /><br />สภาพเครื่องจักร<br />ความเป็นเจ้าของ<br /><br />ค่าใช้จ่ายต่อปี<br />เจ้าของ<br />เช่า<br />1.<br /><br /><br /><br /><br />2.<br /><br /><br /><br /><br />3.<br /><br /><br /><br /><br />4.<br /><br /><br /><br /><br /><br />8.5 ความชำนาญของลูกจ้างทางตรง (พนักงานที่อยู่ในสายการผลิต)<br />ระดับความชำนาญ<br />จำนวนคนที่ต้องการ<br />ค่าใช้จ่าย/ปี<br />จำนวนที่จัดหาได้<br />1.<br /><br /><br /><br />2.<br /><br /><br /><br />3.<br /><br /><br /><br />4.<br /><br /><br /><br /><br />8.6 ความชำนาญของลูกจ้างทางอ้อม (พนักงานที่อยู่ไม่ได้ทำหน้าที่ในสายการผลิต เช่น ผู้จัดการโรงงาน, คนทำความสะอาด, คนจัดเก็บสต็อก เป็นต้น)<br />ระดับความชำนาญ<br />จำนวนคนที่ต้องการ<br />ค่าใช้จ่าย/ปี<br />จำนวนที่จัดหาได้<br />1.<br /><br /><br /><br />2.<br /><br /><br /><br />3.<br /><br /><br /><br />4.<br /><br /><br /><br /><br />ถ้าคุณ ยังไม่ได้จ้างบุคลากรเหล่านี้ คุณจะหาพวกเขาได้จากที่ใด………………………………………<br /><br />8.7 สมรรถนะของลูกจ้าง และการพัฒนาความสามารถ<br />ลูกจ้างหรือพนักงานนับเป็นสินทรัพย์อันมีค่ายิ่งของวิสาหกิจหนึ่งๆ โปรดระบุว่าคุณจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ความเป็นนักคิด ความพึงพอใจ ของพวกเขาได้อย่างไร ? (ยกตัวอย่างเช่น การฝึกอบรม การให้รางวัล หรือการสร้างบรรยากาศที่ดี เป็นต้น)……………………………………………………….<br />…………………………………………………………………………………………………………………<br />8.8 พื้นที่ในการทำงาน / ผลิตสินค้า<br />ในการผลิตสินค้าของคุณ จำเป็นต้องมีพื้นที่ใช้สอยเท่าไรในการ จัดเก็บ ผลิต เคลื่อนย้าย จัดแสดงสินค้า และพื้นที่เหล่านี้ต้องมีขนาดหรือจำนวนเป็นไปตามกฎระเบียบของทางราชการหรือไม่อย่างไร<br /><br />พื้นที่ใช้สอยสำหรับ<br />ขนาดพื้นที่ (ต.ร.ม.)<br />ค่าใช้จ่ายในการซื้อ / เช่า<br />1.<br /><br /><br />2.<br /><br /><br />3.<br /><br /><br />4.<br /><br /><br /><br />9. การคำนวณต้นทุนสินค้า และการตั้งราคา<br /><br />9.1 ต้นทุนวัตถุดิบ (ต่อเดือน)<br /><br />ลำดับ<br />รายการวัตถุดิบ<br />จำนวนที่ใช้<br />ราคาต่อหน่วย<br />รวมเงิน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมต้นทุนวัตถุดิบทั้งหมด<br /><br /><br />ต้นทุนวัตถุดิบต่อหน่วย = ต้นทุนวัตถุดิบทั้งหมด (บาท) =<br /> ปริมาณการผลิตทั้งหมด (หน่วย)<br /><br />9.2 ค่าแรงงานในการผลิตสินค้า (ต่อเดือน หรือ ต่อวัน)<br /><br />รายการ<br />จำนวน<br />อัตราค่าจ้าง<br />รวมเงิน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมค่าแรงงานทั้งสิ้น<br /><br /><br />ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย = ต้นทุนค่าแรงงานทั้งหมด (บาท) =<br /> ปริมาณการผลิตทั้งหมด (หน่วย)<br /><br /><br />9.3 ค่าใช้จ่ายในโรงงาน (ต่อเดือน)<br /><br />รายการ<br />รวมเงิน<br />1. ค่าไฟฟ้า<br /><br />2. ค่าน้ำประปา<br /><br />3. ค่าขนส่งวัตถุดิบ<br /><br />4. ค่าซ่อมแซม และบำรุงรักษาเครื่องจักร<br /><br />5. ค่าเช่าโรงงาน<br /><br />6. ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง<br /><br />7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ<br /><br />8. ค่าสวัสดิการคนงาน<br /><br />9. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ<br /><br />รวมค่าใช้จ่ายในโรงงานทั้งสิ้น<br /><br /><br />ต้นทุนค่าใช้จ่ายในโรงงานต่อหน่วย = ต้นทุนค่าใช้จ่ายในโรงงานทั้งหมด (บาท) =<br /> ปริมาณการผลิตทั้งหมด (หน่วย)<br /><br /><br />9.4 สรุปต้นทุนสินค้าทั้งหมด ต่อหน่วย<br />ต้นทุนสินค้าต่อหน่วย = ต้นทุนวัตถุดิบต่อหน่วย + ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย + ต้นทุนค่าใช้จ่ายในโรงงานต่อหน่วย<br /> = ……………………. บาท ต่อหน่วย<br /><br />10. การตั้งราคาสินค้า<br />ต้นทุนสินค้าต่อหน่วย = ………………………….. บาท<br /> วิธีการกำหนดราคาสินค้า มี 3 วิธีหลักดังนี้<br />¶ ตั้งราคาจากต้นทุนบวกกำไรที่ต้องการ = …………………… บาท<br />· ตั้งราคาตามคู่แข่ง = …………………… บาท<br />¸ ตั้งราคาตามความต้องการของตลาด = …………………… บาท<br /><br />11. แผนการเงิน<br /> เงินจำเป็นต่อการทำให้แผนของคุณประสบความสำเร็จ บางครั้งเงินก็เป็นตัววัดความสามารถในการทำธุรกิจของคุณ และเป็นเครื่องช่วยในการพิจารณาเงินกู้ของสถาบันการเงินอีกด้วย ในการที่คำนวณจำนวนเงินลงทุนที่ต้องใช้นั้น คุณต้องทำความเข้าใจ และจัดทำตารางบัญชีงบการเงินที่สำคัญ 3 อย่างดังนี้<br />· บัญชีงบประมาณกำไร – ขาดทุน<br />· บัญชีงบประมาณกระแสเงินสด<br />· บัญชีประมาณการงบดุล<br /> หลังจากนั้นเป็นคราวของคุณ ที่จะพบปะกับเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน จำไว้ว่าเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินจะทำหน้าที่ช่วยคุณได้อย่างดี ฉะนั้นคุณควรแบ่งปันข้อมูลทุกอย่างที่คุณมีแก่พวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้มีข้อมูลเพียงพอที่จะช่วยคุณ ในด้านการให้เงินกู้ยืม<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />1.1 แผนการชำระเงินกู้<br />ในการดำเนินธุรกิจ คุณอาจจำเป็นต้องกู้เงินมาใช้ในการจัดซื้อวัตถุดิบ หรือเครื่องมืออุปกรณ์ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ก็ต้องชำระดอกเบี้ย และเงินต้นคืนแก่สถาบันการเงิน ดังนี้<br /><br />เงินกู้จำนวน………………………. บาท อัตราดอกเบี้ย ……………….. % ระยะเวลาให้กู้……………ปี<br /><br />ปีที่<br />เงินต้น<br />ชำระเงินต้น<br />(ปีละ)<br />ชำระดอกเบี้ย<br />(ปีละ)<br />รวมชำระเงินต้น และดอกเบี้ย<br />เงินต้นคงเหลือ<br />1<br /><br /><br /><br /><br /><br />2<br /><br /><br /><br /><br /><br />3<br /><br /><br /><br /><br /><br />4<br /><br /><br /><br /><br /><br />5<br /><br /><br /><br /><br /><br />6<br /><br /><br /><br /><br /><br />7<br /><br /><br /><br /><br /><br />8<br /><br /><br /><br /><br /><br />9<br /><br /><br /><br /><br /><br />10<br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมทั้งหมด<br /><br /><br /><br />ดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อปี = เงินต้น X อัตราดอกเบี้ย<br /> 100<br /><br />11.2 ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร (ต่อเดือน)<br /><br /> ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร จะไม่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการผลิต ณ โรงงาน แต่จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในสำนักงาน โดยจะถูกใช้ในงบบัญชีต่างๆ<br /><br />รายการ<br />ปีที่ 1<br />ปีที่ 2<br />ปีที่ 3<br />ปีที่ 4<br />ปีที่ 5<br />ปีที่ 6<br />ปีที่ 7<br />ปีที่ 8<br />ปีที่ 9<br />ปีที่ 10<br />เงินเดือนเจ้าของ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />เงินเดือนเสมียน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าเช่าสำนักงาน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าเครื่องเขียน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าจัดส่งเอกสาร<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าธรรมเนียมราชการ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าน้ำมันรถ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าสวัสดิการพนักงาน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าติดต่อสื่อสาร<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ค่าใช้จ่ายอื่นๆ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมทั้งสิ้น<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />11.3 บัญชีงบประมาณการกำไร-ขาดทุน<br />จัดทำขึ้นเพื่อคำนวณว่าธุรกิจดำเนินไปได้ดีหรือไม่ โดยคุณควรประมาณการยอดขาย และค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี แบบฟอร์มของงบกำไร-ขาดทุน จะมีลักษณะดังนี้<br /><br />รายการ<br />ปีที่ 1<br />ปีที่ 2<br />ปีที่ 3<br />ปีที่ 4<br />ปีที่ 5<br />ปีที่ 6<br />ปีที่ 7<br />ปีที่ 8<br />ปีที่ 9<br />ปีที่ 10<br />มูลค่ายอดขายสุทธิ <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />(หัก) ต้นทุนสินค้าขาย ณ โรงงาน<br />ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รายได้ก่อนหักภาษี และดอกเบี้ย<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />(หัก) ดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว<br />ดอกเบี้ย O/D<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รายได้ก่อนหักภาษี<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />(หัก) ภาษีเงินได้<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />กำไรสุทธิ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />กำไรสะสม<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />11.4 บัญชีงบประมาณกระแสดเงินสด<br /> จัดทำขึ้นเพื่อดูว่าคุณ มีเงินสดเพียงพอในการใช้คืนหนี้สินในอนาคตหรือไม่ เป็นจำนวนเท่าไร ? คุณจำเป็นต้องคาดการณ์ยอดขาย และค่าใช้จ่าย รวมถึงหนี้สินทั้งหมด ภายในช่วงเวลาอย่างน้อย 1 ปี ดังแบบฟอร์มข้างล่างนี้<br />รายการ<br />ปีที่ 1<br />ปีที่ 2<br />ปีที่ 3<br />ปีที่ 4<br />ปีที่ 5<br />ปีที่ 6<br />ปีที่ 7<br />ปีที่ 8<br />ปีที่ 9<br />ปีที่ 10<br />กระแสเงินสดรับ<br />- เจ้าของ และหุ้นส่วน (1)<br />- เงินกู้ระยะยาว (2)<br />- เงินกู้ระยะสั้น O/D (3)<br />- ยอดขายเก็บเงินได้แล้ว (4)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมเงินสดรับ (5) = (1 + 2 + 3 + 4)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />กระแสเงินสดจ่าย<br />- เงินซื้อสินค้าทุน (6)<br />- ชำระเงินเจ้าหนี้ (7)<br />- ค่าแรงงาน (8)<br />- ค่าใช้จ่ายในการผลิต (ณ โรงงาน) (9)<br />- ค่าใช้จ่ายในการขาย (ณ สำนักงาน) (10)<br />- ชำระเงินต้น (11)<br />- จ่ายดอกเบี้ย (12)<br />- ภาษีเงินได้ (13)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมเงินสดจ่าย (14) =(6+7+8+9+10+11+12+13)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />กระแสเงินสดสุทธิ (5) – (14)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />กระแสเงินสดสะสม<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />11.5 บัญชีประมาณการงบดุล<br /> จัดทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาวะทางการเงินของธุรกิจ ณ ช่วงเวลาที่ใดเวลาหนึ่ง โดยประกอบด้วยรายการที่คุณเป็นเจ้าของ ส่วนของการลงทุน และหนี้สินทั้งหมด ดังนี้<br /><br />รายการ<br />มูลค่าจริง<br />ประมาณการ<br />ทรัพย์สินหมุนเวียน<br />- เงินสดในมือ และธนาคาร (1)<br />- ลูกหนี้ (2)<br />- สินค้าคงคลัง (วัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป) (3)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมทรัพย์สินหมุนเวียน (4) = (1 + 2 +3)<br /><br /><br />ทรัพย์สินถาวร<br />- ที่ดิน (5)<br />- อาคารโรงงาน (6)<br />- เครื่องจักร และอุปกรณ์ (7)<br />- ยานยนต์ (8)<br />- รายจ่ายก่อนการดำเนินงาน (9)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมทรัพย์สินถาวร (10) = (5 + 6 +7 + 8 +9)<br /><br /><br />รวมทรัพย์สินทั้งหมด (11) = (4 + 10)<br /><br /><br />หนี้สิน และส่วนของทุน<br />- เงินกู้ระยะสั้น (O/D) (12)<br />- เจ้าหนี้ (13)<br />- เงินกู้ระยะยาว (14)<br />- เจ้าของและหุ้นส่วน (15)<br />- กำไรสะสม (16)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />รวมหนี้สิน และส่วนของทุน (17) = (12+13+14+15+16)<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />12. แผนผังองค์กร และหน้าที่ความรับผิดชอบ<br /> ผังองค์กรเป็นสิ่งสำคัญในการอ้างถึงระดับการสั่งงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรทั้งหมดขององค์กร ลองพิจารณาวาดแผนผังขององค์กรตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงระดับล่างสุดลงดังตัวอย่างข้างล่างนี้ โดยแต่ละระดับเชื่อมโยงด้วยเส้นสายการสั่งงาน พร้อมระบุหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละส่วน<br /><br />ฝ่ายคุณภาพ<br />ที่ปรึกษา<br />หัวหน้าฝ่ายการเงิน<br />หัวหน้าฝ่ายตลาด<br />หัวหน้าฝ่ายโรงงาน<br />หัวหน้าฝ่ายบุคคล<br />ผู้จัดการ<br />แผนกจัดซื้อ<br />แผนกการเงิน<br />แผนกขาย<br />แผนกสรรหาคน<br />แผนกผลิต<br />แผนกบัญชี<br />แผนกวิจัยตลาด<br />แผนกสวัสดิการ<br />แผนกบำรุงรักษา<br />แผนกประเมิน<br />แผนผังองค์กร<br /> <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />13. ข้อควรพิจารณาอื่นๆ<br /> ในการที่จะทำให้แผนธุรกิจของคุณ สามารถใช้งานได้จริง และประสบผลสำเร็จนั้นจำเป็นต้องมีการควบคุม ประเมินผล และการป้อนกลับ ยกตัวอย่างเช่นงบประมาณกำไร-ขาดทุนซึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำธุรกิจของคุณ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้น คุณ ไม่ต้องรอถึง 12 เดือนเพื่อดูผลประกอบการ คุณจำเป็นต้องพิจารณาตัวเลขในแต่ละช่วง หรือแต่ละเดือนเพื่อให้แผนที่คุณ ตั้งไว้ถึงเป้า นอกจากนี้ประมาณการงบกระแสเงินสดของคุณ จะต้องมีการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ<br /> ระบบการควบคุมและการจัดการของคุณ ต้องสามารถให้ข้อมูลทั้งในด้านสินค้าคงคลัง, การผลิต, การควบคุมคุณภาพ, การขาย, และค่าใช้จ่าย ซึ่งมีความถูกต้องแม่นยำเพื่อประโยชน์ในการวางแผนและเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ทันเวลา<br /><br />13.1 ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต<br /> แผนธุรกิจของคุณได้มีการประมาณการตัวเลขต้นทุน-ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกระบวนการผลิต จงใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นมาตรฐานในการวัดผลการดำเนินธุรกิจประจำวัน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการควบคุมเวลาการทำงานของเครื่องจักร เวลาการปฏิบัติงานของลูกจ้าง เวลาที่สูญเสีย เพื่อให้อยู่ในขอบเขตที่คุณกำหนดไว้ การจัดทำรายงานผลการผลิตอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และความสามารถในการทำกำไรได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ<br /><br />13.2 ข้อมูลการควบคุมคุณภาพ<br /> สินค้าที่ไม่มีคุณภาพทำให้ธุรกิจต้องสูญเสียลูกค้า เมื่อสินค้าไม่สามารถทำงานได้ตามสรรพคุณที่อ้างไว้ การส่งมอบก็จะหยุดชะงัก ทำให้ระดับสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประสบปัญหาการขาดเงินทุนหมุนเวียน ดังนั้นการมีระบบการควบคุมคุณภาพที่ดีจะทำให้ขจัดปัญหาตั้งแต่ต้นได้ ระบบการบันทึกข้อมูลคุณภาพสินค้าจะต้องมีประสิทธิภาพพอที่จะลดปัญหาของเสีย และแก้ไขปัญหาคุณภาพอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ในกระบวนการผลิต ระบบการควบคุมคุณภาพจะได้กล่าวต่อไปในภายหลัง<br /><br />13.3 ข้อมูลการขาย<br /> การจัดเก็บข้อมูลยอดขายอย่างละเอียด เช่น สินค้าที่ขาย ลูกค้าที่ซื้อ วันเวลาที่มีการซื้อ-ขาย ปริมาณการสั่งซื้อ ราคา วันเวลาการส่งมอบ การเก็บเงิน เป็นต้น จะทำให้คุณ สามารถอ้างอิงถึงข้อมูลการซื้อขายได้อย่างถูกต้อง และยังมีประโยชน์ในการพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าในอนาคตได้<br /><br />13.4 ข้อมูลการใช้จ่ายเงิน<br /> นอกจากข้อมูลการขายแล้ว ควรมีระบบการจัดเก็บข้อมูลการใช้จ่ายเงินทุกประเภทด้วยเช่น ตัวเลขการจ่ายเงินซื้อสินค้าทุน การจ่ายภาษี เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ต่างๆ เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการดำเนินธุรกิจต่อไป<br /><br />14. แผนสำรองฉุกเฉิน และการปรับปรุงแผนธุรกิจให้ทันสมัย<br /> ในโลกแห่งความเป็นจริง ความไม่แน่นอน และความเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องปกติ ตัวอย่างเช่น ลูกจ้างลาออกกระทันหัน ลูกค้าเปลี่ยนความต้องการ เครื่องจักรเสียหายในช่วงที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมาก หรือคุณเกิดมีความคิดใหม่ๆ เป็นต้น การดำเนินธุรกิจ อาจไม่เป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ดังนั้น คุณควรคิดหาแผนสำรองขึ้นไว้เพื่อเตรียมรับมือกับข้อผิดพลาด หรือสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดมาก่อน และแผนธุรกิจของคุณควรมีความยืดหยุ่น และต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา โดยที่คุณจะต้อง<br />· ตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งในระดับองค์กร และระดับประเทศ<br />· ตรวจสอบแผนธุรกิจกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ<br />· ปรับปรุงแผนธุรกิจใหม่หากจำเป็น<br />· แต่งตั้งบุคลากรในองค์กร ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง เช่นผู้จัดการโรงงานทำหน้าที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคนิค เทคโนโลยีใหม่ๆ และพนักงานขายทำหน้าที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงความต้องการของตลาด เป็นต้น<br />· เจ้าของ หรือผู้มีอำนาจหน้าที่สูงสุด ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการเปลี่ยนแปลงแผนธุรกิจ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น<br />· เมื่อการตัดสินใจเกิดการผิดพลาด ให้ตัดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทันที และให้ศึกษาจากประสบการณ์ที่ผ่านมา<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />15. แผนดำเนินการ<br /> แผนดำเนินการ คือ การกำหนดระยะเวลาของกิจกรรมที่จะดำเนินการตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบว่าเราได้ลงมือปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ดังตัวอย่าง<br /><br />กิจกรรม<br />ปี 2545<br />มค<br />กพ<br />มีค<br />เมย<br />พค<br />มิย<br />กค<br />สค<br />กย<br />ตค<br />พย<br />ธค<br />ด้านการตลาด<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ศึกษารูปแบบผลิตภัณฑ์<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ศึกษาลูกค้า และคู่แข่ง<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ทำแผนส่งเสริมการขาย<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ติดต่อลูกค้า รับใบสั่งซื้อ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ด้านการผลิต<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ออกแบบผลิตภัณฑ์<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ศึกษาวิธีการผลิต<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />จัดซื้อวัตถุดิบ<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />เริ่มผลิต<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ด้านการเงิน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />วิเคราะห์ความเป็นไปได้<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />จัดทำแผนการกู้ยืม<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ติดต่อสถาบันการเงิน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />กู้ยืมเงิน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ด้านบุคลากร<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ศึกษารูปแบบองค์กร<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />จ้างคนงาน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ฝึกอบรมคนงาน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ประเมินผลงาน<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /> </div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/07793199612429798125noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8361335384702208489.post-34224916787826169862010-06-10T03:08:00.000-07:002010-06-10T03:40:52.589-07:00ศูนย์ฝึกอาชืพออนไลน์<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiNrAtsS_Kd7iTBMDk-47JBx8OciNfeNuv1OMzlo7mqMPJg0CGecJIajoh_D0KjDzN-C-D1irlLU4XeJPEt9zcvcuz6bhEKx6tupgb9TMCIBlbrPTXqs0FgSGT_cU_ghZ84VCP0TYSLxQU/s1600/shop_20080416144932.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5481089348262227714" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 198px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiNrAtsS_Kd7iTBMDk-47JBx8OciNfeNuv1OMzlo7mqMPJg0CGecJIajoh_D0KjDzN-C-D1irlLU4XeJPEt9zcvcuz6bhEKx6tupgb9TMCIBlbrPTXqs0FgSGT_cU_ghZ84VCP0TYSLxQU/s200/shop_20080416144932.jpg" border="0" /></a><br /><div align="center"><span style="font-size:130%;"><span style="font-size:180%;"><span style="font-size:130%;">อาจารย์ชัชศูนย์ฝึกวิชาชีพออนไลน์</span><br /></span>ศูนย์ฝึกวิชาชีพ ออนไลน์ </span></div><br /><div align="left"><span style="font-size:130%;">ตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร<br />โทร ๐๘๙-๐๕๘๘๕๘๕ ๐๘๖-๕๐๐๗๓๔๕</span><br />เรามีวีซีดี ซึกอาชีพซึ่งเราแบ่งเป็นหมวดหมู่<br />..............................................................<br /><br />อาจารย์ชัชศูนย์ฝึกวิชาชีพเพื่อประชาชน<br />ศูนย์ฝึกวิชาชีพ ออนไลน์<br />วัตถุประสงค์ของศูนย์ฝึกวิชาชีพนี้<br />1. เราอยากให้ท่านมีธุรกิจของตนเอง<br />2. เราสอนและบ่มเพาะนักธุรกิจรุ่นใหม่ อยางมืออาชีพ<br />3. เราจีงสอนการทำแผนธุรกิจ BUSINESS PLAN ให้ท่านก่อนเพื่อจะได้ทำธุรกิจอย่างมีแผนและเป้าหมายที่ชัดเจน<br />4. เราจะทำให้ฝันของท่านเป็นจริง(มีร้านของตนเอง)<br />5। เราเตรียม 2 สิ่งนี้ให้ท่านที่ดีที่สุดและเราตั้งใจ เชื่อว่าท่านที่ศึกษา 2 สิ่งนี้แล้วก็สามารถเปิดร้านของตัวเองได้ ।1 การทำแผนธุรกิจ 2 VCD อาชีพ ถ่ายทำขั้นตอนการทำธุรกิจแบบเจาะลึก 6। วิสัยทัศน์ของเรา</div><br /><div align="left">.</div><br /><div align="left"><br />เศรษฐกิจดี สังคมไม่มีบัญหา การพัฒนายั่งยืน<br />7. ที่ศูนย์กลางการฝึกอาชีพแก่ประชาชนทั่วไป<br />8.ไม่ได้มุ่งหวังเป็นการค้าเป็นหลัก<br />9.หวังให้สังคมไทยมีเศรษฐกิจที่ดี<br />10. ผู้เข้ามาในเวปนี้สามารถตั้งร้านทำธุรกิจเลี้ยงตนได้<br />11. เป็นทางเลือกของคนที่อยากมีธุรกิจ<br />12 .เป็นแหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอาชีพแบบเจาะลึก<br />ด้วยความปราถนาดี<br />ด้วยอยากให้คุณมีอาชีพ-รายได้ดี<br />อาจารย์ชัช<br />089-058-85-85 086-500-7345<br />VCD อาชีพของเราไม่มีวางจำหน่าย สนใจต้องสั่งทางโทรศัพย์และเราจัดส่งทางไปรษณีย์ เท่านั้น<br /><br />เพราะอยากให้ท่านมีอาชีพและเปิดร้านได้<br />สอนอย่างเป็นขั้นตอนเหมือนมีครู มาสอนที่บ้านท่าน เรียนทวนไปทวนมาจนกว่าจะเข้าใจ เปิดร้านได้อย่างแน่นอน<br />ให้ความพยายามทำงานให้สำเร็จครับ<br /><a name="News">ข่าวสารของร้านค้า</a><br />รวมหมวดหมู่อาชีพ<br />เรามี VCD สอนให้ท่านเป็นเถ้าแก่ / เจ้าของกิจการมืออาชีพ<br />สอนเป็นขั้นตอน สามารถดูซ้ำ เรียนทวนไป ทวน มาจนกว่าจะเป็น แบ่งเป็นหมวดวิชา ต่างฯ ทั้ง อาหาร ช่าง ฯลฯ<br /><a href="http://tarad.com/archeep">อาหาร</a><br /><a href="http://tarad.com/archeep">เครื่องดื่ม</a><br /><a href="http://tarad.com/archeep">เกษตร</a><br /><a href="http://tarad.com/archeep">ศิลป์</a><br /><a href="http://tarad.com/archeep">ขนม</a><br /><a href="http://tarad.com/archeep">น้ำยา</a><br /><a href="http://tarad.com/archeep">เคล็ดลับ</a></div><br /><div align="left">.........................................................................................</div><br /><div align="left">อาชืพที่มีอยู่มากมายเช่น</div><br /><div align="left">หมวดอาหาร หมวดอื่นฯ หมวดการเกษตร</div><br /><div align="left">A<br />1.ขนมปังเนยสด<br />2.แยมโรลผลไม้รวม<br />3.ขนมปังไส้กรอก<br />4.เทโพผักบุ้งปลาแห้ง<br />5.โดนัสไส้กรอก<br />6.เค้กกล้วยหอม<br />7.แยมโรลใบเตย<br />8.โดนัลน้ำตาล9.การทำลูกชิ้นเห็ดหอม<br />10.แกงหมูเทโพ,ไก่ทอด,ผัดถั่วงอกเต้าหู้หมูสับ<br />11.เห็ดนางฟ้า<br />12.ลูกชิ้นพะแนง,ผักเขียวตุ๋นเห็ดหอมซี่โครงหมู,เปรี้ยวหวานทะเลรวมมิตร<br />13.แกงส้มแตงโมอ่อน ,มะระยัดไส้,ห่อหมกทะเลทอด<br />14.แกงเผ็ดกุ้งใส่ฟักทอง,ไข่ซ่อนรูป,ต้มยำขาหมู<br />15.ไก่ตุ๋นมะนาวดอง,ผัดเผ็ดซี่โครงหมู<br />16.น้ำพริกอ่อง,ปลาเก๋าราดพริก,แกงจืดเต้าหู้หลอด<br />17แกงพริกไก่,ปลาทูต้มส้ม,ปลาหมึกยัดไส้<br />18.แกงป่ามะเขืออ่อน,ผัดพริกกุ้ง,ไข่ตุ๋น<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />B<br />1. น้ำยาซักแห้ง,ปรับผ้านุ่ม<br />2. ดอกไม้กระดาษย่น<br />3. เพ้นท์แก้ว<br />4. ภาพพิมพ์กระจก<br />5. ทำเทียนหอม<br />6. แกะเทียน<br />7. แกะไม้<br />8. แกะปูนปาสเตอร์<br />9. ภาพพิมพ์เศษวัสดุ<br />10. ภาพพิมพ์ลูกกลิ้ง<br />11. ภาพพิมพ์ใบไม้<br />12. ภาพพิมพ์แกะไม้<br />13. ใบตองบายศรี<br />14. ของชำร่วยพวงกุญแจเรซิ่น<br />15. สานปลาตะเพียน<br />16. สานใบลาน<br />17. ผลิตภัณฑ์จากขี้เลื่อย<br />18. แยมโรล<br />19. สานตระกร้า<br />20. น้ำยาเช็ดกระจก,น้ำยาดับกลิ่น<br />21. การแช่กระดาษทิชชูเพื่อทำกล่องใส่ปากกา<br />22. ดอกไม้ประดิษฐ์,ดอกไม้ใบยางพารา<br />23. หมวกเม็กซิกัน<br /><br />C<br />1. ปลูกบล็อกโคลี<br />2. การปลูกฝรั่ง<br />3. การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง<br />4. การปลูกมะลิ<br />5. การปลูกผัก<br />6. เห็ดบอนขาว<br />7. การปลูกมันเทศ<br />8. การปลูกแครอท<br />9. การปลูกพริก<br />10. การปลูกชะอม<br />11. การปลูกดาวเรือง<br />12. การผลิตปุ๋ยหมักในนาและอุตสาหกรรม<br />13। การปรับปรุงดินเค็ม</div><br /><div align="left">............................................................................<br />ตัวอย่าง อาชีพที่ท่านสามารถเรียนรู้และไปประกอบอาชีพได้เลย<br />นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอาชีพที่ทำเงิน และลงทุนไม่มาก ก็สามารถเป็นผู้ประกอบการได้ ในภาวะเศรษฐ์กิจแบบนี้ มาเป็น เจ้าของกิจการกัน<br />สนใจ<br />โทร 089-0588585 086-5007345 อ.ชัช</div><br /><div align="left">..........................................................................................<br />1.หมวดอาหาร<br />เปิดร้านข้าวขาหมูรวยกันมามากแล้วจากคำแนะนำของอาจารย์ชัช<br />ขายข้าวขาหมู<br />เงินลงทุน :<br />ประมาณ 8,000 บาท(รถเข็น 4,000 บาท เดาแก๊ดพร้อมถัง 2,000บาท ต้กระจก 1,000 บาท)<br />รายได้ :<br />ประมาณ 20,000 บาท/เดือน<br />วัสดุอุปกรณ์ :<br />น้ำเข็น เตาแก๊ดพร้อมถัง หม้อข้าว หม้อต้มขาหมู ตะแกรงวางปากหม้อ ทัพพี มีด เขียง ตู้กระจก ถุงพลาสติก ยางรัดถุง<br />ส่วนผสม :<br />ข้าวสารหุงสวย<br />1<br />หม้อ<br />ขาหมู<br />2<br />ขา<br />รากผักชี<br />10<br />ราก<br />ผงพะโล้<br />3<br />ช้อนโต๊ะ<br />ซีอิ้วดำ<br />1/2<br />ถ้วยตวง<br />น้ำตาล<br />1/2<br />ถ้วยตวง<br />ผักกาดดอง<br />1/2<br />กิโลกรัม<br />กระเทียม<br />5<br />หัว<br />พริกไทย<br />20<br />เม็ด<br />ซีอิ้วขาว<br />1<br />ถ้วยตวง<br />น้ำปลา<br />2<br />ซ้อนโต๊ะ<br />ผักชีหั่น<br />1<br />ถ้วยตวง<br />ยอดผักคะน้า<br />1/2<br />กิโลกรัม<br />วิธีทำ :<br />นำขาหมูสดไปย่างไฟให้หนังไหม้เกรียม ใช้มีดขูดออกให้หมด แล้วไปใส่หม้อท่วมขาหม<br />โขลกกระเทียมและพริกไทยให้ละเอียด ใส่ลงในหม้อขาหมู พร้อมทั้งใส่รากผักชี ผง พะโล้ ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำตาลและน้ำปลา นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟแรงพเดือดลดไฟอ่อน เคี่ยวจนขาหมูเปื่อย ตักขาหมูขึ้น เฉือนเอาแต่เนื้อวาง พักไว้บนตะแกรงที่วางไว้บนปากหม้อ<br />นำผักกาดดองต้มน้ำเปล่า เคี่ยวจนเปื่อย จึงเอาผักขึ้น นำไปเคี่ยวในน้ำขาหมูต่อ เพื่อให้ น้ำขาหมูเข้าไปในเนื้อผักกาดดอง แล้วจึงจึงตักขึ้นภาชนะไว้<br />นำยอดผัดคะน้ำไปลวก หั่นเป็นชิ้นยาวพอประมาณใส่ภาชนะไว้<br />ตักข้าวใส่จาน หั่นขาหมูเป็นชิ้นพอคำวางไว้ข้าวในจาน พร้อมกับตักผักกาดดองและ ยอดผักคะน้าลวกกวางในข้าง ๆ โรยหน้าด้วยผักชีหั่นและตักน้ำจจิ้มใส่ถ้วยเล็กๆ เสิร์ฟพร้อมกัน<br />ถ้าตักใส่ถุงขาย ให้ตักน้ำและขาหมูใส่รวมกันในถุโรยหน้าด้วยผักชีหั่น ส่วนผักกาดดองและยอดผักคะน้าลวกให้แยกต่างหาก<br />ส่วนผสมน้ำจิ้ม :<br />น้ำส้มสายชู<br />1<br />ถ้วยตวง<br />น้ำตาลทราย<br />2<br />ช้อนดโต๊ะ<br />เกลือป่น<br />1/2<br />ช้อนโต๊ะ<br />กระเทียม<br />10<br />กลีบ<br />พริกชี้ฟ้าแดง<br />10<br />เม็ด<br />วิธีทำ :<br />นำน้ำส้ม น้ำ ตาลทราย เกลือป่น ใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อน ๆ คนให้ละลาย แล้วยกขึ้น ใส่กระเทียมและพริกสดที่โขลกละเอียด คนให้เข้ากัน ชิมดูให้มีรสเปรี้ยวนำ ส่วนรสเค็ม หวานและเผ็ดเล็กน้อยก็พอ<br />ตลาด/แหล่งจำหน่วย :<br />ตลาดทั่วไป หมู่บ้านจัดสรร แหล่งชุมชน<br />ข้อแนะนำ :<br />เพื่อเพิ่มความน่ารับประทาน อาจใส่ไข่ต้มลงไปน้ำขาหมู เพื่อให้เป็นไข่ พะโล้ และผ่าครึ่งเป็น 2 ชิ้น จัดใส่ในจานข้าวขาหมู<br />2. เปิดร้านขายไอติมกะทินี้ก็รวยได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นรายได้เสริมก็ดี อ.จ.ทำแล้วรายได้ดีครับ ไม่หวงความรู้อยากให้ลองทำดูครับ<br /><br /><br />ขายไอศครีมกะทิ<br />เงินลงทุน :<br />ครั้งแรกประมาณ 8,500 บาท ขึ้นไป<br />รถเข็น ราคาประมาณ 1,500 บาท เครื่องตักไอศครีม ราคา 4,5000ท บาท ขึ้นไป<br />ถังใส่ไอศครีม ราคา 1,6000 บาท ที่ตักไอศครีม ราคา 200-600 บาท<br />รายได้ :<br />ประมาณ 500 บาท/วัน<br />อุปกรณ์ :<br />รถเข็น ถังใส่ไอศครีม เครื่องปั่นไอศครีม ที่ตักไอศครีม ขวดโหล ไม้พาย ถ้วย<br />ช้อนพลาสติก ขนมปัง ถ้วยโคน นมสด ถั่วลิสงคั่ว<br />แหล่งจำหน่ายอุปกรณ์ :<br />เครื่องปั่นไอศครีม, ถังใส่ไอศครีม - คลองถม ที่ตักไอศครีม<br />ตลาดพญาไท, วงเวียน 22 ถ้วยใส่ไอศครีม, ช้อน - ตลาดมหานาค<br />ส่วนผสม :<br />มะพร้าว<br />10<br />กิโลกรัม<br />น้ำตาล 5 กิโลกรัม<br />นมผง<br />1/2<br />กิโลกรัม<br />ขนุนและเผือก (หั่นแล้ว),ลอดช่อง อย่างละ 1/2 กิโลกรัม<br />วิธีทำ :<br />ต้มน้ำใบเตยให้เดือด ตักน้ำเดือด 2 ขัน ผสมกับน้ำธรรมดา 2 ขัน (ขันขนาดเบอร์ 20)<br />นำมาคั้นกับน้ำมะพร้าว จะได้กะทิ 4 ขัน ตักใส่ภาชนะไว้ แล้วคั้นกับน้ำปริมาณเท่าเดิม<br />(จะได้กะทิอีก 4 ขัน ) นำกะทิทั้งหมด 8 ขัน มาผสมกับน้ำตาลและนมผง ละลายให้เข้ากัน<br />กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปปั่นในถังปั่นไอศครีม<br />วิธีปั่น :<br />ใช้ถังปั่นไอศครีม โดยมีน้ำแข็งทุบใส่อยู่รอบ ๆ ถัง โรยเกลือเม็ดลง<br />ในน้ำแข็งแล้วปั่นไอศครีมประมาณ 15 นาที เมื่อเริ่มมีการฝืด แสดงว่าไอศครีมได้แข็งตัวลงแล้ว<br />(ขณะที่ปั่นไอศครีม ถ้าน้ำแข็งรอบถังละลาย ต้องเติมและโรยเกลือไว้ด้วยทุกครั้ง)<br />จากนั้นตักไอศครีมจามถังไอศครีม ใส่ขนุน ลอดช่อง เผือก<br />ใช้ไม้พายด้ามยาวคนให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็งและเกลือในถังนอกรอบ ถังไอศครีม<br />นำผ้าคลุมน้ำแข็งให้มิดชิอ เพื่อรักษาอุณหภูม<br />ตลาดจำหน่าย :<br />แหล่งชุมชน เช่น ปากซอย หมู่บ้าน<br />ข้อแนะนำ :<br />เครื่องที่รับประทานกับไอศครีม ควรมีหลาย ๆ ชนิด เช่น ข้าวเหนียว ลูกชิด มันเชื่อม ถั่วแดง ลูกบัว เป็นต้น<br />ควรใส่เครื่องไอศครีมในขวดโหลที่ใส สะอาด ชวนให้น่ารับประทาน<br />เมื่อตักไอศครีมใส่ถ้วย หรือขนมปัง ควรโรยนมสดและถั่วลิสงคั่วบนหน้า ไอศครีมด้วย<br />สถานที่ฝึกอบรม :<br />สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ โทร. 942-8460, 579-2294 ต่อ 219-222<br />มูลนิธิลุขาวไขอาชีพ โทร.538-3981<br />3. เปิดร้านก๋วยเตียวผัดไทยสูตรอาจารย์ชัชรวยกันมามากต่อมากแล้ว<br /><br />ขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทย<br />เงินลงทุน :<br />ครั้งแรกประมาณ 6,500 บาท(รถเข็น 3,000 บาท เตาแก๊สพร้อมถัง 2,500 บาท )<br />รายได้ :<br />ประมาณ 25,000 บาท/เดือน<br />อุปกรณ์ :<br />รถเข็น เตาแก๊สพร้อมถัง กระทะ ตะหลิว<br />ส่วนผสม :<br />ก๋วยเตี๋ยวเส้น<br />1<br />ถ้วยตวง ไข่<br />1<br />ฟอง<br />ใบกุยช่ายหั่น<br />1/2<br />ถ้วยตวง เต้าหู้แข้งหั่นเล็ก<br />1/4<br />ถ้วยตวง<br />น้ำตาลปี๊บ<br />2<br />ช้อนโต๊ะ น้ำมัน<br />3<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำส้มสายชู<br />1<br />ช้อนโต๊ะ โต๊ะกุ้งแห้งฝอย<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />ถั่วงอก<br />1/2<br />ถ้วยตวง ถั่วลิสงคั่วป่น<br />1/4<br />ถ้วยตวง<br />หัวผักกาดเค็มหั่น<br />1<br />ช้อนโต๊ะ น้ำปลา<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำมะขามเปียก<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />วิธีทำ :<br />นำเส้นก๋วยเตี๋ยวแช่น้ำจนอิ่ม<br />ใส่น้ำมันลงกะทะตั้งไฟให้ร้อน นำเส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดเติมน้ำเล็กน้อย เพื่อให้ เส้นนุ่ม ปรุงรสด้วนน้ำตาล น้ำปลา น้ำส้มสายชู น้ำส้มมะขาม ตอกไข่ใส่ ใส่กุ้งแห้งฝอย ผักกาดเค็ม เต้าหู้ ใบกุยช่าย ถั่วงอก ถั่วลิสง ผัดให้สุก<br />เครื่องเคียง :<br />ถั่วงอกดิบ หัวปลี ต้นกุยช่าย มะนาวฝานเป็นชิ้น<br />สถานที่ฝึกอบรม :<br />สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตโชติเวช โทร.281-0545,282-8531-2<br />ชมรมขาวไขอาชีพ โทร.538-3981<br />ข้อแนะนำ :<br />เส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าใช้เส้นจันทร์ จะน่ารับประทานยิ่งขึ้น หรือใช้วุ้นเส้นหรือไม่ใส่เส้น ตามลูกค้าต้องการ<br />ใส่กุ้งสด หรือปลาหมึกสดเพิ่มเติมได้ตามลูกค้าต้องการ<br />ถ้าต้องการทำปริมาณมาก ให้เพิ่มอัตราส่วนต่าง ๆ ขึ้นตามส่วน<br />ควรขายคู่กับหอยทอด เพื่อเป็นการเสริมรายได<br /><br /><br />ขายไก่ย่าง<br />เงินลงทุน :<br />ประมาณ 4,000 บาท ( รถเข็นราคาประมาณ 3,000 บาท )<br />รายได้ :<br />ประมาณ 800 บาท / วัน<br />วัสดุ / อุปกรณ์ :<br />รถเข็นเตาถ่าน ตะแกรงกะละมัง หม้อ ไม้เสียบไก่ ถ่งพลาสติก<br />ส่วนผสมไก่ย่าง :<br />ไก่สด<br />3<br />กก.<br />รากผักชีหั่น<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />เกลือป่น<br />2<br />ช้อนชา<br />น้ำตาลทราย<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />กระเทียม<br />20<br />กลีบ<br />พริกไทย<br />10<br />เม็ด<br />ซีอิ้วหวาน<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />วิธีทำ :<br />นำไก่สดเป็นชิ้น ๆ ได้แก่ น่อง ขา ปีก สะโพก ตับ กึ๋น มาคลุกเคล้ากับพริกไทย กระเทียม รากผักชี ที่โขลกละเอียดแล้ว ใส่เกลือป่น ซีอิ้วหวาน และน้ำตาล ทราย คลุกให้เขากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาเสียบไม้ ปีก น่อง ขาสะโขลก เสียบชิ้นละไม้ สำหรับตับแบะกึ๋นเสียบไม้ละ3-4 ชิ้น จากนั้นนำมา ย่างเตาถ่านไฟปานกลาง ถ้าไฟแรงเกิน โรยด้วยขี้เถ้า ย่างสุกเกรียมทั้ง 2 ด้าน แต่อย่าให้ไหม<br />ส่วนผสมน้ำจิ้ม :<br />น้ำจิ้มหวาน<br />พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำกระเทียมดอง<br />1/2<br />ถ้วยตวง<br />น้ำตาลปิ้บ<br />2<br />ถ้วยตวง<br />เกลือป่น<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำสายซู<br />3<br />ถ้วยตวง<br />น้ำจิ้มแจ่ว<br />พริกป่น<br />5<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำมะนาว<br />1<br />ถ้วยตวง<br />น้ำปลาร้า<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />ต้นหอม ผักชีหั่น<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำปลา<br />1<br />ถ้วยตวง<br />หอมหัวแดงซอย<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />ข้าวคั่ว<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />วิธีทำ นำส่วนผสมทุกชนิดผสมรวมกันให้เข้ากัน (น้ำปลาร้าจะไม่ใส่ก็ได้)<br />ตลาด/ แหล่งจำหน่าย :<br />ตลาดทั่วไป แหล่งชุมชน<br />ข้อแนะนำ :<br />ควรขายควบคู่กับข้าวเหนียวนึ่งหรือส้มตำ เพื่อเสริมรายได้<br />ขายข้าวเหนียวหมูย่าง<br />เงินลงทุน :<br />เงินทุนเริ่มแรกประมาณ 3,600 บาท (รถเข็น 3,000 บาท เตาถ่านและตะแกรงย่าง 100 บาท )<br />รายได้ :<br />ประมาณ 6,000 บาท / เดือน<br />อุปกรณ์ :<br />รถเข็น เตาถ่านและแกรงย่าง ไม้เสียบหมูย่าง ถุงพลาสติก<br />เครื่องปรุง :<br />หมู<br />1<br />กิโลกรัม<br />กะทิ<br />1/2<br />ถ้วยตวง<br />น้ำปลา<br />2<br />ช้อนโต๊ะ<br />น้ำตาล<br />1<br />ช้อนโต๊ะ<br />ซีอิ้วดำ<br />1<br />ช้อนชา<br />รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขกละเอียด<br />1-2<br />ช้อนโต๊ะ<br />วิธีทำ :<br />หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นบาง ๆ กว้าง 1 นิ้วฟุต ยาว 3 นิ้วฟุต นำมาคลุกกับน้ำปลา<br />น้ำตาล ซีอิ้วดำ กระเทียม พริกไทย รากผักชี หมักไว้ 1 ชั่วโมง นำหมูมาเสียบ<br />ไม้ย่างไฟกลาง ขณะที่ย่างพรมหัวกะทิ ย่างจนสุกได้ที่<br />ข้าวเหนียว<br />นำข้าวเหนียวประมาณ 2 กิโลกรัม แช่น้ำไว้ค้างคืน จึงค่อยซาวน้ำทิ้ง แล้วจึง<br />โดยใส่น้ำอย่าให้ท่วมข้ามเหนียว นึ่งประมาณครึ่งชั่วโมง<br />แหล่งจำหน่าย :<br />ตลาด แหล่งชุมชน<br />ข่อแนะนำ :<br />ถ้าบริเวณที่อยู่อาศัยเป็นทำเลที่เหมาะกับการค้าขาย ก็ไม่ต้องซื้อรถเข็น ทำให้ประหยัดเงินลงทุนได้<br />ทำให้สะอาดน่ารับประทาน และใช้เนื้อหมูสด ๆ ไม่ผสมสีหรือสารกันบูด </div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/07793199612429798125noreply@blogger.com0